#วัฒนธรรมการหมัก
มาเอาใจคุณแม่บ้าน พ่อบ้าน ด้วยวิธีการเลือกการซื้อและใช้น้ำส้มสายชู (vinegar) อย่างไร? ให้ปลอดภัยและไม่ทำร้ายสุขภาพ ตาม 7 ขั้นตอนง่ายๆ ดังต่อไปนี้เลย
แรกสุด...สิ่งที่ควรมองหน้าบนฉลากก็คือชนิดของน้ำส้มสายชู หลักๆแล้วจะมีระบุอยู่บนฉลากด้านหน้าอย่างชัดเจนว่า น้ำส้มสายชูกลั่น (distrilled vinegar, white vinegar) น้ำส้มสายชูเทียม (synthetic vinegar) หรือน้ำส้มสายชูหมัก (ชื่อพืชหรือผลไม้ที่นำมาหมัก + vinegar เช่น coconut flower vinegar คือ นำ้ส้มสายชูหมักดอกมะพร้าว อย่างน้ำส้มสายชูหมัก ตราเสือบิน, apple cider vinegar คือ น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล, rice vinegar คือ นำ้ส้มสายชูหมักข้าว) เพื่อจะเลือกใช้ได้ตรงกับจุดประสงค์การใช้งานจริงๆ แนะนำถ้าใช้บริโภคโดยตรงควรเลือกน้ำส้มสายชูหมักเพราะว่าผลิตมาจากธรรมชาติซะส่วนใหญ่ ปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อร่างกาย ส่วนถ้านำ้ส้มสายชูกลั่นและน้ำส้มสายชูเทียม ราคาก็จะประหยัดเหมาะกับการใช้ทำความสะอาด เช็ดล้างต่างๆ แต่ก็จะมีกลิ่นเปรี้ยวที่ค่อนข้างฉุนตามมา ในกรณีที่ไม่มีระบุชัดเจนว่าเป็นน้ำส้มสายชู (vinegar) ชนิดไหน? ก็ควรหลีกเลี่ยงเพื่อความสบายใจดีกว่า
2. มองหาสิ่งแปลกปลอมในบรรจุภัณฑ์ :
เช่น แมลง เศษผงต่างๆ ในน้ำส้มสายชูกลั่นและน้ำส้มสายชูเทียมจะสามารถมองหาได้ง่ายมากเพราะใสแจ๋ว ไม่มีตะกอนใดๆ แต่ในน้ำส้มสายชูหมักหลายคนอาจจะสับสนได้ง่ายระหว่างตะกอนที่มีอยู่ในขวด (mother of vinegar) กับสิ่งแปลกปลอม สังเกตได้ง่ายๆถ้าเป็นตะกอนของน้ำส้มสายชูหมักจะมีลักษณะเป็นเส้นใย คล้ายวุ้นหรือใยแมงมุมบางๆ สีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่มีโทษ เกิดจากการทำงานของจุลินทรีย์ชนิดดีที่เป็นแหล่งรวมของสารอาหารต่างๆอีกด้วย
3. อ่านข้อมูลการผลิต :
มองหาข้อมูลเหล่านี้บนบรรจุภัณฑ์ ว่าสินค้าที่ผลิตขึ้นมีเลขที่รับรอง อย. หรือไม่? ผลิตจากที่ไหน? และมีวัน/เดือน/ปี ที่หมดอายุเมื่อไหร่ ซึ่งโดยปกติแล้วนำ้ส้มสายชูสามารถเก็บไว้ได้นาน2-3 ปีในอุณหภูมิห้องปกตินับจากวันที่ผลิต
4. ดูปริมาณ % กรด (% of acidity) :
ใครที่อยากรู้ว่าน้ำส้มสายชูที่รับประทานอยู่นั้น เปรี้ยวมากน้อยแค่ไหน?ดูได้ง่ายๆจากระดับ %กรดตัวนี้ โดยปกติแล้วตามมาตรฐาน อ.ย. จะกำหนดมาตรฐานของน้ำส้มสายชูให้มีระดับ %กรดอยู่ที่ประมาณ 4-7% ซึ่งเป็นระดับที่ปลอดภัยต่อการรับประทานได้โดยตรงสำหรับผู้บริโภค แนะนำว่าระดับ 4-5% เป็นระดับที่มีความเปรี้ยวเหมาะสมสำหรับการนำมาปรุงอาหารหรือผสมกับเครื่องดื่ม แต่ถ้าระดับ 5-7% ควรนำไปใช้ในการดองผัก หรือผลไม้ ทำซอสต่างๆที่มีการเจือจางมากๆ เพื่อจะได้ไม่เปรี้ยวเกินไปจนบาดคอ
5. ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ :
ผู้ที่มีปัญหากระดูกพรุนและโพแทสเซียมต่ำ ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ในส่วนของปริมาณในการรับประทานและข้อมูลโภชนาการเพิ่มเติม
6. อ่านข้อมูลการแพ้อาหาร :
ข้อนี้สำคัญมาก! สำหรับผู้ที่แพ้อาหาร ควรอ่านดูบนฉลากให้ละเอียดครบทุกส่วนว่ามีแจ้งข้อมูลของสารก่อภูมิแพ้ชนิดไหนบ้าง? เช่น ข้าว ถั่ว สารกลูเตน ฯลฯ ใครแพ้อะไรก็ควรหลีกเลี่ยงใช้น้ำส้มสายชูชนิดนั้นๆ เพื่อความปลอดภัย
7. ห้ามรับประทานโดยไม่ผสม :
เนื่องจากน้ำส้มสายชูทุกประเภทมีฤทธิ์เป็นกรด หากรับประทานโดยตรงเลย ไม่ได้เจือจาง ความเป็นกรดอาจทำลายสารเคลือบฟันและเยื่อบุกระเพาะอาหารได้ ดังนั้นแนะนำยังไงก็ควรต้องผสมกับอาหาร น้ำหรือเครื่องดื่ม ก่อนบริโภคเพื่อให้เจือจางก่อนทุกครั้ง!
น้ำส้มสายชูหมักแท้ ตรา เสือบิน "สะอาด ปลอดภัย ดีต่อใจ กินกับอะไรก็อร่อย" ใช้แล้วสบายใจ ผลิตจากดอกมะพร้าวแท้ 100% หมักธรรมชาตินาน 4 เดือน ต้นตำรับกว่า 80 ปี
Coconut Flower Vinegar : Suaebin Brand
Graphic by www.freepik.com
Comments